ทฤษฎีพหุปัญญา ( Theory of Multiple Intelligences )
1. ปัญญาด้านภาษา (Linguistic
Intelligence)
2.
ปัญญาด้านตรรกศาสตร์และคณิตศาสตร์ (Logical-Mathematical Intelligence)
3.
ปัญญาด้านความสามารถในการรับรู้ทางสายตาได้ดี สามารถมองเห็นพื้นที่ รูปทรง ระยะทาง
และตำแหน่ง อย่างสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน แล้วถ่ายทอดแสดงออกอย่างกลมกลืน
มีความไวต่อการรับรู้ในเรื่องทิศทาง สำหรับผู้ที่มีปัญญาด้านนี้โดดเด่น
จะมีทั้งสายวิทย์ และสายศิลป์
4.
ปัญญาด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว (Bodily Kinesthetic Intelligence)
5. ปัญญาด้านดนตรี (Musical
Intelligence)
6.
ปัญญาด้านมนุษยสัมพันธ์ (Interpersonal Intelligence)
7.
ปัญญาด้านการเข้าใจตนเอง (Intrapersonal Intelligence)
8.
ปัญญาด้านธรรมชาติวิทยา (Naturalist Intelligence)
http://www.tutorgohome.com/otherarticlesz/888-ทฤษฎีการเรียนรู้.html ได้กล่าวไว้ว่า ทฤษฏีนี้มีความเชื่อพื้นฐานที่สำคัญ 2 ประการ คือ
1. เชาวน์ปัญญาของบุคคลมิได้มีเพียงความสามารถทางภาษาและทางคณิตศาสตร์เท่า
นั้น แต่มีอยู่อย่างหลากหลายถึง 8
ประเภทด้วยกัน ประกอบด้วย
- เชาวน์ปัญญาด้านภาษา(Linguistic
intelligence)
- เชาวน์ปัญญาด้านคณิตศาสตร์หรือการใช้เหตุผลเชิงตรรกะ(Logical
mathematical intelligence)
- สติปัญญาด้านมิติสัมพันธ์(Spatial
intelligence)
- เชาวน์ปัญญาด้านดนตรี(Musical
intelligence)
- เชาวน์ปัญญาด้านการเคลื่อนไหวร่างกายและกล้ามเนื้อ(Bodily
kinesthetic intelligence)
- เชาวน์ปัญญาด้านความสัมพันธ์กับผู้อื่น(Interpersonal
intelligence)
- เชาวน์ปัญญาด้านความเข้าใจตนเอง(Intrapersonal
intelligence)
- เชาวน์ปัญญาด้านความเข้าใจธรรมชาติ(Naturalist
intelligence)
เชาวน์ ปัญญาของแต่ละคนอาจจะมีมากกว่านี้
คนแต่ละคนจะมีความสามารถเฉพาะด้านที่แตกต่างไปจากคนอื่น และมีความสามารถในด้านต่างๆ ไม่เท่ากัน
2.เชาวน์ปัญญาของแต่ละบุคคลจะไม่อยู่คงที่อยู่ที่ระดับที่ตนมีตอนเกิด
แต่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
หากได้รับการส่งเสริมที่เหมาะสม
สมปอง จันทคง ( http://www.kroobannok.com/blog/35261)
ได้กล่าวไว้ว่า
ผู้บุกเบิกทฤษฎีนี้คือ การ์ดเนอร์ (Gardner)
จาก
ม. ฮาร์วาร์ด ในปี ๑๙๘๓
แนวคิดนี้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางความคิดเกี่ยวกับ “เชาวน์ปัญญา” เป็นอย่างมาก
ผู้เรียนสามารถแก้ปัญหาในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ หรือการสร้างผลงานต่าง ๆ
สัมพันธ์กับวัฒนธรรม
เชาวน์ปัญญาทางภาษาและคณิตศาสตร์
เชาวน์ปัญญาของบุคคลไม่อยู่คงที่
จะมีการเปลี่ยนแปลง
พัฒนาหากได้รับการส่งเสริมที่เหมาะสม
เชาวน์ปัญญาของบุคคลประกอบด้วย
1.ความสามารถในการแก้ปัญหาในสภาพการณ์ต่าง
ๆ ที่เป็นไปตามธรรมชาติและตามบริบท
ทางวัฒนธรรม
2.ความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานที่มีประสิทธิภาพและสัมพันธ์กับบริบททางวัฒนธรรม
3.ความสามารถในการแสวงหาหรือตั้งปัญหาเพื่อหาคำตอบและเพิ่มพูนความรู้เชาวน์ปัญญา ๘
ด้านตามแนวคิดของการ์ดเนอร์
- เชาวน์ปัญญาด้านภาษา
- เชาวน์ปัญญาด้านคณิตศาสตร์หรือการใช้เหตุผลทางตรรกะ
- เชาวน์ปัญญาด้านมิติสัมพันธ์
- เชาวน์ปัญญาด้านดนตรี
- เชาวน์ปัญญาด้านการเคลื่อนไหวร่างกายและกล้ามเนื้อ
- เชาวน์ปัญญาด้านการสัมพันธ์กับผู้อื่น
- เชาวน์ปัญญาด้านการเข้าใจตนเอง
- เชาวน์ปัญญาด้านความเข้าใจธรรมชาติ
การประยุกต์ใช้ทฤษฎีในการเรียนการสอน
แนวทางการนำทฤษฎีพหุปัญญามาใช้ในการเรียนการสอนมีดังนี้
1.เนื่องจากแต่ละบุคคลมีเชาวน์ปัญญาแตกต่างกัน
ดังนั้นในการจัดการเรียนการสอนควรมีกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย
จะช่วยให้ผู้เรียนทุกคนมีโอกาสที่จะพัฒนาตนเองอย่างรอบด้าน พร้อมทั้งช่วยส่งเสริมศักยภาพหรือความสามารถเฉพาะตนของผู้เรียนไปในตัว
2.เนื่องจากผู้เรียนมีระดับพัฒนาการในเชาวน์ปัญญาแต่ละด้านไม่เท่ากัน
ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับขั้นการพัฒนาการในแต่ละด้านของผู้เรียน
ที่หลากหลาย
3.เนื่องจากผู้เรียนแต่ละคนมีเชาวน์ปัญญาแต่ละด้านไม่เหมือนกัน แต่ละคนมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง มีความแตกต่างกัน หลากหลาย
สามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ส่วนรวม
4.ระบบการวัดผลประเมินผลการเรียนรู้ควรต้องมีการปรับเปลี่ยนไปจากแนวคิดเดิมที่ใช้การทดสอบวัดความสามารถเชาวน์ปัญญาเพียงด้านเดียว ควรประเมินอย่างหลากหลายและตามสภาพจริง
สรุป
พหุปัญญา หมายถึง
สติปัญญาความสามารถที่หลากหลายของบุคคลที่มี
ความสามารถที่มาจากการถูกควบคุมโดยสมองแต่ละส่วน
และการพัฒนาสมองต้องได้รับการเลี้ยงดูจากสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม
การส่งเสริมความสามารถทางสติปัญญาในการทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างมีเป้าหมาย
คิดอย่างมีเหตุผล และต้องจัดให้เหมาะสมกับความแตกต่างระหว่างบุคคลเพื่อให้พัฒนา
ความสามารถทางสติปัญญาของบุคคลในการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมและสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่มา
http://pirun.kps.ku.ac.th/~b5127046/link18-3.html. สืบค้นเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 58.
http://www.tutorgohome.com/otherarticlesz/888-ทฤษฎีการเรียนรู้.html. สืบค้นเมื่อวันที่
1 ก.ย. 58.
http://www.kroobannok.com/blog/35261. สืบค้นเมื่อวันที่
1 ก.ย. 58.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น